Main Catalogue Lyreco 2024

อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ ข้อบังคับและมาตรฐาน

ทะลุนอกจุดศูนย์กลาง (แนวเฉียงหรือในลักษณะแฉลบ) รวมถึงการยึด แน่นของสายรัดคาง 3. สามารถใส่กลับด้าน (Reverse Wearing) หมวกแข็งมีปีกรอบตัว หรือ Full Brim สามารถใส่กลับหน้า-หลัง ได้โดยไม่มีผลกระทบต่อคุณสมบัติ ด้านการป้องกันอันตราย เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการสวมใส่ขณะเร่ง ด่วน เป็นค่ากำ �หนดทางเลือก ไม่ใช่การบังคับ แต่ต้องผ่านการทดสอบ จึงจะได้รับรองคุณสมบัติข้อนี้ 4. ต้านทานความเย็นจัด เป็นข้อกำ �หนดไม่บังคับ สำ �หรับหมวกใช้งาน ในสภาพภูมิอากาศหนาวเย็น โดยจะต้องผ่านการทดสอบคุณสมบัติที่ อุณหภูมิ -30 C แทนการทดสอบที่อุณหภูมิ -18 C สำ �หรับหมวก ใช้ งานปกติ หมวกที่ผ่านค่ากำ �หนดนี้จะมีตัวอักษร LT (Low Temperature) พิมพ์บนป้ายกำ �กับหมวก 5. ทัศนวิสัยสูง (High Visibility) เป็นข้อกำ �หนดไม่บังคับ ว่าด้วยการใช้สี ของตัวหมวกที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หมวกที่ผ่านการทดสอบ การมองเห็นตามข้อกำ �หนดนี้ จะมีตัวอักษร HV บนป้ายกำ �กับหมวก ข้อกำ �หนดมาตรฐานในยุโรป ส่วนในยุโรปจะใช้มาตรฐาน EN เป็นเกณฑ์บังคับซึ่งมีอยู่ด้วยกัน ดังนี้ 1. EN397 บังคับใช้กับหมวกแข็งนิรภัยสำ �หรับงานอุตสาหกรรมโดยทั่ว ไป (Industrial Hard Hats) 2. EN812 บังคับใช้กับหมวกกันกระทบ (Bump Caps) 3. EN14052 บังคับใช้กับหมวกแข็งนิรภัยประสิทธิภาพสูง สำ �หรับงาน อุตสาหกรรม (High Performance Industrial Helmets) หมวกแข็งนิรภัย ที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน EN 14052 เทียบเท่าหมวกนิรภัย Type 2 ตามมาตรฐาน ANSI ซึ่งจะต้องผ่านการทดสอบตามหัวข้อ ดังนี้ 3.1) “รับแรงกระแทก” (Impact Test) มาตรฐาน EN 14052 จะทดสอบ การทิ้งวัตถุลงไปที่หมวก 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้โลหะ รูปทั่งน�ำ� หนัก 5 กก. (11 ปอนด์) ทิ้งลงผิวกลางหมวกหรือยอดหมวก จากความสูง 2.04 เมตร (6.5 ฟุต) โดยมีแรงกระทำ �ต่อหมวก 100 จูล ครั้งที่สองใช้โลหะอันเดียวกันทิ้งลงบน ผิวด้านข้างหมวกทีุ่่ ดใดจุดหนึ่งที่อยู่ระหว่าง 15-60 องศา ด้านหน้าหรือ ด้านหลังหมวก จากความสูง 1.02 เมตร (3.25 เมตร) แรงกระทำ� 50 จูล หมวกต้อง “ผ่าน” ทั้ง 2 ครั้ง จึงจะถือว่า “ผ่าน” การทดสอบรับแรง กระแทก 3.2) “รับแรงเจาะทะลุ” (Penetration) มาตรฐาน EN 14052 จะทดสอบ การทิ้งวัตถุลงไปที่หมวก 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้โลหะลักษณะเป็นใบมีดแบน (Flat Blade) นำ� �หนัก 1 กก. (2.2 ปอนด์) ลงบนผิวยอดหมวกจากความ สูง 2.5 เมตร (8 ฟุต) ครั้งที่สองใช้โลหะเดียวกันทิ้งลงด้านข้างหมวก จากจุดหนึ่งที่อยู่ระหว่าง 15-60 องศา ด้านหน้าหรือด้านหลังหมวก จาก ความสูง 2.04 เมตร (6.5 ฟุต) หมวกต้อง “ผ่าน” ทั้ง 2 ครั้ง จึงจะถือว่า “ผ่าน” การทดสอบรับแรงเจาะทะลุ 3.3) ข้อบังคับการออกแบบ (DesignRequirements) ครอบคลุมถึงรูปทรง ที่สอดรับกับการเคลื่อนไหวตามหลักเออร์โกโนมิกส์ ทัศนวิสัยขณะสวม ใส่จะต้อง “ผ่าน” การทดสอบ 3.4) สายรัดคางจะต้อง “ผ่าน” การทดสอบ “ระบบรัดแน่น” (Retention System Effectiveness) ด้วยการทิ้งแท่งโลหะ หนัก 10 กก. ผ่านรอกลงไปที่ ด้านท้ายหมวกขณะสวมศีรษะของหุ่น โดยหมวกจะต้องไม่หลุดออกจาก ศีรษะหุ่นจากนั้นทดสอบซำ� �ลักษณะเดียวกันที่่้ านหน้าหมวก

Wear Safety Helmet สำ �นักบริหารสุขภาพและความ ปลอดภัยแห่งชาติสหรัฐ OSHA (Occupational Safety and HealthAdministration) ออก ข้อบังคับการสวมหมวกนิรภัย ขณะปฏิบัติงาน เรียกว่า “29 CFR 1910.135” ซึ่งมีสาระส�ำ คัญ ดังนี้ 1. นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างสวมหมวกนิรภัยขณะปฏิบัติงานในพื้นที่มี แนวโน้มจะได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากวัสดุที่ตกลงมา 2. นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างสวมหมวกแข็งนิรภัยที่ออกแบบมาเพื่อลด อันตรายจากกระแสไฟฟ้าขณะปฏิบัติงานใกล้กับตัวนำ�กระแสไฟฟ้า ซึ่งอาจ สัมผัสกับหมวกแข็งได้ 3. หมวกแข็งนิรภัยต้องมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานหนึ่ง หรือมากกว่า ดังต่อไปนี้ ANSI Z89.1-2003, ANSI Z89.1-1997, ANSI Z89.1-1986 *หมายเหตุ ANSI ฉบับล่าสุดคือ ANSI/ISEA Z89.1-2009 4. อุปกรณ์ป้องกันศีรษะใดๆ ที่นายจ้างแสดงหลักฐานจะต้องมีคุณสมบัติ อย่างน้อยที่สุดตรงตามมาตรฐานใดมาตรฐานหนึ่งข้างต้น ข้อกำ�หนดมาตรฐาน ANSI Z89.1-2003 หมวกแข็งนิรภัยจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ตามลักษณะเฉพาะของหมวก ได้แก่ 1. Type 1 สามารถรับแรงกระแทกเฉพาะที่ตกลงกลางหมวก 2. Type 2 สามารถรับแรงกระแทกได้ทั้งที่ตกลงกลางหมวกและกระแทก ด้านข้างหมวก นอกจากนี้ ยังแบ่งออกเป็นชั้น (Class) ตามคุณสมบัติ การต้านทาน แรงกระแทกจากวัตถุตกหล่น และลดอันตราย จากการสัมผัสตัวน�ำ กระแสไฟฟ้า ดังต่อไปนี้ 1.Class E ลดอันตรายจากการสัมผัสตัวน�ำ กระแสไฟฟ้าแรงดันสูง (High Voltage Electrical Conductors) และต้องผ่านการทดสอบการต้านทาน กระแสไฟฟ้าที่ 20,000 โวลต์ 2.Class G ลดอันตรายจากการสัมผัสตัวน�ำ กระแสไฟฟ้าแรงดันต�ำ� (Low Voltage Electrical Conductors) และต้องผ่านการทดสอบการต้านทาน กระแสไฟฟ้าที่ 2,200 โวลต์ 3. Class C ไม่มีคุณสมบัติป้องกันอันตรายจากการสัมผัสตัวน�ำ กระแสไฟฟ้า ข้อกำ�หนดมาตรฐาน ANSI/ISEA Z89.1-2009 ยังคงค่ากำ �หนดประสิทธิภาพและการทดสอบสำ �หรับหมวกแข็ง นิรภัยใช้ในงานอุตสาหกรรมมาตรฐาน ฉบับปี 2003 ไว้ และเพิ่มเติม ค่ากำ �หนดใหม่เข้ามา ได้แก่ 1. ค่าแรงต้านทานแรงกระแทกลงบนยอดหมวกสำ �หรับหมวก Type 1 และค่าความต้านทานแรงกระแทกจากด้านข้างรอบตัวหมวกสำ �หรับหมวก Type 2 2. หมวกแข็ง Type 1 และ Type 2 ตามมาตรฐาน ANSI/ISEA Z89.1-2009 ต้องผ่านการทดสอบการรับแรงกระแทกตามค่ากำ �หนดใหม่ (ค่าบังคับ) โดยเฉพาะ Type 2 ต้องผ่านการทดสอบรับแรงกระแทกทั่วทั้งตัวหมวก ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านหลัง ด้านบน ด้านข้าง ซ้าย ขวา และแรงเจาะ

03

อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล

283

“จัดส่งสินค้าฟรีในวันทำ �การถัดไป”

Made with FlippingBook Online newsletter creator